ขั้นตอนในการทบทวนเอกสารที่เกี่ยวข้อง
1.กำหนดจุดมุ่งหมายของการทบทวนเอกสารให้ชัดเจน
การกำหนดจุดมุ่งหมายให้ชัดเจนจะช่วยให้ทราบว่าเอกสารใดบ้างควรเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะทำวิจัย
มีแนวทางในการการคัดเลือกเอกสาร และการจับประเด็นจากเอกสารต่าง ๆ ทำได้ง่ายและชัดเจนขึ้น
2.สำรวจเอกสารที่เกี่ยวข้อง
นักวิจัยจะต้องสำรวจว่าการจะทบทวนเอกสารเพื่อจุดมุ่งหมายแต่ละอย่างนั้น
ควรจะมีเอกสารอะไรบ้างที่จะต้องนำมาทบทวน
การสำรวจอาจจะเริ่มจากเอกสารรอง
ซึ่งเป็นเอกสารที่ทำขึ้นโดยใช้สารสนเทศจากเอกสารหลัก
3.สืบค้นหาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
นักวิจัยต้องทราบว่าเอกสารที่ต้องการนั้นอยู่ที่ไหน
จะหามาได้อย่างไรนักวิจัยจะต้องรู้จักแหล่งเอกสารประเภทต่างๆ เช่น ห้องสมุด
ศูนย์สารนิเทศ ศูนย์เอกสารสนเทศ หอจดหมายเหตุ ฯลฯ เป็นต้น และที่สำคัญคือจะต้องมีทักษะในการสืบค้น (Searching skill) หาเอกสารเหล่านั้นด้วย
นั่นคือจะต้องมีความรู้ว่าเอกสารเหล่านั้นจัดเก็บไว้อย่างไร
จะเข้าถึงเอกสารนั้นได้อย่างไร
ปัจจุบันเทคโนโลยีในการจัดเก็บเอกสารได้พัฒนาก้าวหน้าไปมาก มีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยจัดเก็บเอกสารไว้ในสื่อรูปแบบต่างๆ
ที่จะช่วยให้การสืบค้นเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วและกว้างขวาง
นักวิจัยจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการสืบค้นเอกสารจากสื่อเหล่านี้
และติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางด้านนี้อย่างต่อเนื่องเพราะมีการพัฒนาไปค่อนข้างจะรวดเร็ว
จึงจะทำให้การสืบค้นเอกสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
4.คัดเลือกเอกสาร
เอกสารที่ได้จากการสืบค้นในข้อ 3
นั้นไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ทั้งหมด
นักวิจัยจะทำการคัดเลือกเอาเฉพาะเอกสารที่มีความเกี่ยวข้องจริงๆ
ตามจุดมุ่งหมาย
อังนั้นเมื่อได้เอกสารมานักวิจัยจะต้องอ่านอย่างคร่าวๆ (Scanning) ก่อนว่าเอกสารนั้นมีเนื้อหาสาระเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะวิจัยอย่างแท้จริงหรือไม่
และจะคัดเลือกไว้เฉพาะเอกสารที่มีความเกี่ยวข้องอย่างแท้จริงเท่านั้นเพื่อทบทวนอย่างลึกซึ้งต่อไป
5.ลงมืออ่านเอกสารอย่างละเอียดจับประเด็นสำคัญให้ได้ตามจุดมุ่งหมาย
ถ้าเป็นเอกสารงานวิจัยประเด็นสำคัญที่ต้องการมักจะได้แก่ ปัญหาหรือคำถามหรือวัตถุประสงค์ของการวิจัย ขอบเขตของการวิจัย ข้อสันนิษฐาน วิธีดำเนินการวิจัย สรุปผลการวิจัย เป็นต้น
6.จดบันทึกสาระที่ได้จากการอ่าน
ควรจดบันทึกลงในบัตร ขนาดของบัตรที่นิยมใช้บันทึกมักจะมีขนาดประมาณ 3 x 5 นิ้ว ควรบันทึกประเด็นที่ได้จากการอ่านลงในบัตรประเด็นละใบ
และไม่ควรลืมบันทึกข้อมูลบรรณานุกรมของเอกสารด้วย
เพื่อจะใช้ประโยชน์ในการอ้างอิงถึงเมื่อจะต้องเรียบเรียงผลการประมวลเอกสารที่เกี่ยวข้อง
7.สังเคราะห์สาระที่ได้จากอ่านเข้าด้วยกัน
8.เรียบเรียงผลการประมวลเอกสารที่เกี่ยวข้อง
http://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&frm=1&source=web&cd =10&ved=0CGMQFjAJ&url=http%3A%2F%2Fwww.science.cmru.ac.th%2Fscienceblog%2Fadmin%2Fblog%2Ffile%2F230411123204.doc&ei=_sTTUJz9OsPwrQf08YHgBA&usg=AFQjCNGbFF4Ro1ZzJeNOvO2sBEazf6GPuQ&sig2=EktKqzciq7yj2HaXiP_Haw&sig2=EktKqzciq7yj2HaXiP_Haw ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า
การทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องสามารถนำมาผลการค้นคว้าใช้อ้างอิงในการวิจัยได้
2 ลักษณะใหญ่
ๆ คือ
1. การอ้างอิงเชิงทฤษฎี ( Theoretical
Reference )
2. การอ้างอิงเชิงประจักษ์
( Empirical
Reference )
การอ้างอิงเชิงทฤษฎี
การนำผลการทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ้งได้สาระเกี่ยวกับทฤษฎี แนวคิด และผลงานวิจัยต่าง ๆ มาอ้างอิงในขั้นตอนต่าง ๆ
ของการวิจัยได้หลายขั้นตอน ตัวอย่างเช่น
1. ขั้นตอนการเลือกเรื่องวิจัยหรือการกำหนดหัวข้อวิจัย
ร่างหัวข้อวิจัยที่เคยกำหนดไว้เดิมนั้น
หลังจากทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว
อาจมีการปรับปรุงหัวข้อวิจัยให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
2. ขั้นตอนการกำหนดปัญหาการวิจัย
ร่างการกำหนดปัญหาการวิจัยที่กำหนดไว้เดิม อาจมีขอบเขตเฉพาะเจาะจงที่ยังไม่ครอบคลุมองค์ประกอบของปัญหาที่กว้างขวางมากพอ
หลังจากทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว
อาจมีการปรับปรุงการกำหนดปัญหาการวิจัยให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
3. ขั้นตอนการกำหนดความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ร่างการกำหนดความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาที่เคยกำหนดไว้เดิมนั้น
หลังจากทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว
อาจมีการปรับปรุงความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาให้มีเหตุผลกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
4. ขั้นตอนการกำหนดสมมติฐานการวิจัย
ร่างการคาดคะเนคำตอบของปัญหาการวิจัยที่กำหนดไว้เป็นสมมติฐานการวิจัยเดิมนั้น หลังจากทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว
อาจมีการปรับปรุงการกำหนดสมมติฐานการวิจัยให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
5. ขั้นตอนการกำหนดตัวแปรการวิจัย
ร่างการกำหนดตัวแปรการวิจัยที่เคยกำหนดไว้เดิมนั้น
หลังจากทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว อาจมีการปรับปรุงตัวแปรการวิจัยให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
6. ขั้นตอนการกำหนดนิยามศัพท์
ร่างการกำหนดนิยามศัพท์ที่เคยกำหนดไว้เดิมนั้นหลังจากการทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว
อาจจะมีการปรับปรุงนิยามศัพท์ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
7. ขั้นตอนการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างและวิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่าง
ร่างการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างและวิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างที่เคยกำหนดไว้เดิมนั้น
หลังจากทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว
อาจจะมีการปรับปรุงขนาดกลุ่มตัวอย่างและวิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
8. ขั้นตอนการกำหนดเครื่องมือที่ใช้รวบรวมข้อมูล
ร่างเครื่องมือที่ใช้รวบรวมข้อมูลที่เคยกำหนดไว้เดิมนั้น
หลังจากทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้วอาจมีการปรับปรุงเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลให้รัดกุมเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
9. ขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูล
ร่างการกำหนดการวิเคราะห์ข้อมูลที่เคยกำหนดไว้เดิมนั้นหลังจากทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว
อาจมีการปรับปรุงสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
http://www.bestwitted.com/?tag=%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0% B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B5 ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า ทบทวนเอกสารและงานวิจัย(วรรณกรรม)ที่เกี่ยวข้องการทบทวนวรรณกรรม
หมายถึง
การศึกษาค้นคว้าเอกสารหรืองานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผู้วิจัยกำลังจะทำการศึกษา
เพื่อให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎี
แนวคิด อันเชื่อมโยงมาสู่การกำหนดกรอบแนวคิดและตัวแปรที่เกี่ยวข้องซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ
ขั้นตอนในการทบทวนวรรณกรรม
-กำหนดขอบเขตของการทบทวนวรรณกรรม
-ค้นหาเอกสารหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
-การเลือกเอกสารและรายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
-การอ่านเอกสาร
-บันทึกข้อมูล
-การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
หลักการเขียนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
รูปแบบการอ้างอิง
อ้างอิงเชิงอรรถ (Footnote Style) ท้ายหน้าที่อ้างอิง โดยมีชื่อผู้แต่ง ชื่อหนังสือ หรือ บทความ
ปีที่พิมพ์และหมายเลขหน้า
อ้างอิงระบบ นาม – ปี (Author – Date Style) มีเฉพาะชื่อนามสกุล ปีที่พิมพ์ และหมายเลขหน้า
โดยวงเล็บไว้หลังข้อความที่อ้างอิง
สรุป
การทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในประเด็นทบทวนงานวิจัย
การทบทวนที่จะให้คุณค่าแก่นักวิจัยครบถ้วน
นอกจากการศึกษาเนื้อหาสาระแล้ว
นักวิจัยจะต้องศึกษารายละเอียดของการวิจัยทุกประเด็น ตั้งแต่ชื่องาน วัตถุประสงค์การวิจัย กรอบแนวคิดการวิจัย การกำหนดสมมติฐานการวิจัย
ระเบียบวิธีวิจัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ตลอดจนการเขียนรายงานการวิจัย
ขั้นตอนที่มีความสำคัญมากขั้นตอนหนึ่งของงานวิจัยคือการทบทวนวรรณคดีและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
( Review Literature and
Related Research ) ขั้นนี้จะเป็นขั้นที่ช่วยทำให้ผลวิจัยเห็นแนวทางในการวิจัยว่าจะดำเนินการวิจัยอย่างไร
จึงจะทำให้งานวิจัยทำสำเร็จได้อย่างมีคุณภาพการทบทวนวรรณคดีและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง หมายถึงการอ่าน การศึกษา
การเก็บประเด็นต่าง ๆ แนวคิด ทฤษฎี วิธีการ ข้อค้นพบต่าง ๆ จากงานวิจัย ตำรา หนังสือ
วารสาร ตลอดทั้งเอกสาร สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ
ที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจและสามารถนำมาอ้างอิงได้ โดยมีขั้นตอน
ตังนี้
1.กำหนดขอบเขตของการทบทวนวรรณกรรม
2.ค้นหาเอกสารหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
3.การเลือกเอกสารและรายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
4.การอ่านเอกสาร
5.บันทึกข้อมูล
6.การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
อ้างอิง
http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:ArXYySikvjEJ:netra. lpru .ac.th/~phaitoon/RESEARCH/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2/doc.htm+&cd=1&hl=th&ct=clnk&gl=th. เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555.
http://www.google.co.th/url? sa=t&rct=j&q= &esrc =s&frm=1&source=web&cd=10 &ved=0CGMQFjAJ&url=http%3A%2F%2 Fwww.science.cmru.ac.th%2Fscienceblog% 2Fadmin%2Fblog%2Ffile%2F230411123204.doc&ei=_sTTUJz9OsPwrQf08YHgBA&usg=AFQjCNGbFF4Ro1ZzJeNOvO2sBEazf6GPuQ&sig2=EktKqzciq7yj2HaXiP_Haw. เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น